FBS ก้าวเข้าสู่ปีที่ 16

ปลดล็อกของรางวัลวันเกิด: ตั้งแต่แก็ดเจ็ตและรถในฝันไปจนถึงทริป VIPเรียนรู้เพิ่มเติม

30 พ.ค. 2025

หุ้น

EU50: ความไม่แน่นอนยังปกคลุมยูโรโซน กดดันดัชนีให้มีโอกาสกลับมาอ่อนตัวลงได้

ภาพรวมตลาด

      แม้การเจรจาการค้าระหว่างสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ จะเริ่มมีสัญญาณเชิงบวก หลังจากการหารือโดยตรงระหว่างผู้นำของทั้งสองฝ่าย ทว่ากระบวนการเจรจาที่ยังคงมีความซับซ้อน และต้องอาศัยความเห็นชอบจากสมาชิกทั้ง 27 ประเทศ ยังคงสร้างความไม่แน่นอนต่อแนวโน้มในอนาคต นักลงทุนจำนวนมากจึงยังไม่สามารถคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากภาษีศุลกากรได้ โดยเฉพาะหากไม่มีความคืบหน้าทางการเมืองที่ชัดเจนในช่วงก่อนเข้าสู่ไตรมาสถัดไป ขณะเดียวกัน ผู้ผลิตรายใหญ่ในอุตสาหกรรมรถยนต์และโลหะของยุโรปยังคงเผชิญแรงกดดันจากภาษีที่ยังบังคับใช้อยู่ แม้จะมีการผ่อนผันบางส่วนในระยะสั้นก็ตาม

        ในด้านข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุด ภาพรวมยังคงสะท้อนถึงความเปราะบางของเศรษฐกิจยูโรโซนอย่างต่อเนื่อง โดยดัชนี PMI รวมของเดือนพฤษภาคมปรับลดลงต่ำกว่าระดับ 50 จุดอีกครั้ง ซึ่งชี้ให้เห็นถึงการหดตัวของกิจกรรมเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคบริการที่ชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าภาคการผลิตยังสามารถขยายตัวได้เล็กน้อย แต่ความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้า และความระมัดระวังจากผู้ประกอบการทั่วโลกต่อคำสั่งซื้อใหม่ ยังคงเป็นแรงกดดันต่อแนวโน้มการฟื้นตัวในระยะสั้น ทั้งนี้ นักวิเคราะห์หลายสำนักเริ่มปรับลดประมาณการการเติบโตของ GDP สำหรับไตรมาสถัดไปของยูโรโซนลงอย่างต่อเนื่อง

       ในส่วนของเงินเฟ้อและการบริโภคภายในประเทศก็ยังไม่สามารถเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญได้ โดยอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ที่ 2.2% แม้ดูเหมือนจะอยู่ในกรอบเป้าหมายของ ECB แต่เมื่อพิจารณารายละเอียดจะพบว่าเงินเฟ้อในภาคบริการยังคงอยู่ในระดับสูง ขณะเดียวกัน ยอดค้าปลีกที่ลดลงสวนทางกับความคาดหวัง สะท้อนถึงความอ่อนแรงของกำลังซื้อในภาคครัวเรือน ความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยจาก ECB จึงอาจตีความได้ว่าเป็นความพยายามในการกระตุ้นเศรษฐกิจมากกว่าการตอบสนองต่อสัญญาณฟื้นตัวที่แท้จริง ภายใต้บริบทเหล่านี้ ดัชนี EU50 จึงยังมีแนวโน้มเผชิญแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง และมีความเสี่ยงต่อการอ่อนตัวในช่วงสั้นถึงกลางเทอม หากเศรษฐกิจยูโรโซนยังไม่สามารถแสดงสัญญาณฟื้นตัวที่ชัดเจนได้ในเร็ววัน

การวิเคราะห์ทางเทคนิค
EU50       

ดัชนี Euro Stoxx 50 (EU50) เริ่มส่งสัญญาณอ่อนตัวในระยะสั้น หลังจากที่ราคาปรับตัวขึ้นไปทดสอบบริเวณแนวต้านสำคัญในกรอบสีแดง แต่ยังไม่สามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้อย่างชัดเจน ส่งผลให้เกิดแรงขายกลับเข้ามากดดันราคาอีกครั้ง โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาสัญญาณจาก RSI ในกรอบรายวัน (Daily) ที่อยู่บริเวณระดับประมาณ 53 ซึ่งสะท้อนว่าแรงซื้อเริ่มชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด ขณะเดียวกันค่า MACD ก็เริ่มมีลักษณะโค้งตัวลงเข้าใกล้เส้นสัญญาณ บ่งชี้ว่าโมเมนตัมขาขึ้นเริ่มอ่อนแรงลง หากราคายังคงไม่สามารถฝ่าแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ ก็มีโอกาสสูงที่ราคาจะย่อตัวลงต่อในระยะถัดไป โดยแนวรับสำคัญถัดไปอยู่ที่บริเวณ 5,086.12 จุด ซึ่งหากหลุดระดับนี้ลงมาอย่างชัดเจน จะเป็นการยืนยันสัญญาณปรับฐานที่มีน้ำหนักมากขึ้น อย่างไรก็ตาม หากเกิดแรงซื้อกลับเข้ามาและสามารถดันราคาให้ทะลุแนวต้านกรอบสีแดงขึ้นไปได้ ก็จะกลายเป็นสัญญาณเชิงบวกที่อาจเปิดทางให้ดัชนีมีโอกาสไต่ระดับขึ้นไปสู่แนวต้านถัดไปที่บริเวณ 5,800 จุด ดังนั้น การติดตามพฤติกรรมราคาในช่วงใกล้แนวต้านจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในช่วงนี้

EU50 (DAILY)

1867.png

การซื้อขายสกุลเงินต่างประเทศโดยใช้มาร์จิ้นมีความเสี่ยงสูงและอาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน เนื่องจากการใช้เลเวอเรจที่สูงสามารถทำให้ทั้งกำไรและขาดทุนที่อาจได้รับเพิ่มขึ้นได้ ดังนั้น ก่อนที่จะเข้าสู่ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ การประเมินเป้าหมายการลงทุน ประสบการณ์ และความสามารถในการรับความเสี่ยงของตัวเองอย่างเหมาะสมถือเป็นสิ่งจำเป็น

แบ่งปันกับเพื่อน ๆ:
Witsawa Lattaponpakorn

ผู้เขียน: Witsawa Lattaponpakorn

เปิดบัญชี FBS

โดยการลงทะเบียน คุณได้ยอมรับเงื่อนไขของ ข้อตกลงลูกค้า FBS และ นโยบายความเป็นส่วนตัว FBS และยอมรับความเสี่ยงทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการซื้อขายในตลาดการเงินระดับโลก