ภาพรวมตลาด
หุ้น Facebook (Meta Platforms) ยังคงมีพื้นฐานที่สนับสนุนแนวโน้มขาขึ้นอย่างแข็งแรง จากฐานผู้ใช้ระดับ “มหภาค” ที่แตะมากกว่า 3.5 พันล้านคนต่อวันใน Family of Apps ทั้ง Facebook, Instagram, WhatsApp, Messenger และ Threads การเติบโตของผู้ใช้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเอเชียแปซิฟิก รวมถึงการมีส่วนร่วมที่มากขึ้นของวัยรุ่นและวัยทำงานตอนต้น ทำให้ Meta กลายเป็นแพลตฟอร์มโฆษณาดิจิทัลที่แทบไม่มีคู่เปรียบ รายได้ปี 2024 อยู่ที่ราว 1.64 แสนล้านดอลลาร์ โดยกว่า 97% มาจากโฆษณา ซึ่งสะท้อนแกนธุรกิจที่ยังแข็งแรงและทำมาร์จิ้นได้สูง ขณะเดียวกัน การนำ AI มาปรับระบบแนะนำคอนเทนต์ช่วยเพิ่มเวลาใช้งานทั้งบน Facebook และ Threads อย่างชัดเจน ส่งผลโดยตรงต่อ inventory โฆษณาและศักยภาพในการทำรายได้ในอนาคต
กลยุทธ์ AI ของ Meta เริ่มแปลงเป็นผลลัพธ์เชิงตัวเลข ไม่ใช่แค่เรื่องเล่าปลุกความหวังอีกต่อไป ระบบโฆษณาอัจฉริยะอย่าง Advantage+ มีรายได้ต่อปีเกิน 60 พันล้านดอลลาร์ และช่วยเพิ่มอัตราการแปลงยอดขายให้ผู้ลงโฆษณาทั้งบน Facebook และ Instagram จนทำให้รายได้โฆษณาไตรมาส 3 ปี 2025 โตมากกว่า 25% (YoY) จากทั้งปริมาณ impression ที่เพิ่มขึ้น 14% และราคาต่อโฆษณาที่สูงขึ้น 10% นักวิเคราะห์อย่าง Barton Crockett ถึงขั้นประเมินว่า “ผลตอบแทนจากการลงทุน AI ของ Meta ชัดที่สุดในบรรดาหุ้นกลุ่ม Magnificent Seven” จนให้ราคาเป้าหมายเหนือ 1,100 ดอลลาร์ คิดเป็นอัพไซด์กว่า 70% จากระดับปัจจุบัน ซึ่งสะท้อนว่าศักยภาพการทำกำไรจาก AI ของ Meta อาจยังไม่ได้ถูกรวมอยู่ในราคาหุ้นอย่างเต็มที่
ในด้านคุณภาพกำไรและฐานะการเงิน Meta อยู่ในสถานะที่แข็งแกร่งพอจะลงทุนเชิงรุกโดยไม่กังวลมากนัก งบดุลถือเงินสดและเทียบเท่ากว่า 4.4-4.7 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่กระแสเงินสดอิสระไตรมาสเดียวสูงระดับ 8–10 พันล้านดอลลาร์ ทำให้ทั้งปีมี FCF margin อยู่แถว 20% กลาง ๆ บริษัทจึงเดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน AI อย่างจริงจัง ดันงบ Capex ปี 2025 ไปที่ช่วง 6.6-7.2 หมื่นล้านดอลลาร์ และอาจทะลุ 1แสนล้านดอลลาร์ในปี 2026 แต่ก็ยังรักษาอัตรากำไรจากการดำเนินงานกว่า 40% นอกจากนี้ ยังมีการกันงบซื้อหุ้นคืนอีกประมาณ 2.8 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งช่วยขับเคลื่อน EPS และเป็นแรงเสริมเชิงบวกต่อราคาหุ้นในระยะกลางอีกด้วย
การที่ทั้งหมดนี้ช่วยวางรากฐานให้กำไร Meta Meta แสดงสมดุลที่ดีระหว่าง “การเติบโต” และ “ความสามารถทำกำไร” ทำให้บริษัทมีแนวโน้มเติบโตสองหลักในช่วง 3–5 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นฐานสำคัญที่ทำให้ภาพรวม “ยังเอียงไปทางขาขึ้น” และสนับสนุนว่า ราคาหุ้น Meta ยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้ ตามพัฒนาการของธุรกิจที่แข็งแรงจริง ไม่ได้พึ่งกระแสเก็งกำไรระยะสั้น
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
FACEBOOK
ราคาปรับตัวอ่อนลงมาทดสอบบริเวณกรอบแนวรับสีแดงก่อนจะเกิดแรงซื้อเข้ามาพยุงราคาอย่างเด่นชัด ส่งผลให้ราคาดีดตัวกลับขึ้นและกลับมาเคลื่อนไหวตามโครงสร้างเทรนไลน์ขาขึ้นได้อีกครั้ง สะท้อนถึงแรงส่งของฝั่งซื้อที่ยังคงแข็งแรงพอจะผลักดันราคาให้ไต่ระดับขึ้นต่อไป โดยมีเป้าหมายถัดไปอยู่บริเวณแนวต้าน 745 ดอลลาร์ซึ่งเป็นโซนที่ตลาดจับตามอง แต่หากราคากลับอ่อนแรงและหลุดแนวรับสำคัญบริเวณ 555 ดอลลาร์ลงมา ก็จะเพิ่มโอกาสให้เกิดแรงขายต่อเนื่องและอาจดันราคาให้ลงไปทดสอบแนวรับถัดไปบริเวณ 490 ดอลลาร์ในลำดับถัดไป
FACEBOOK (DAILY)

